วันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

Leh Ladakh Day1 Shanti stupa

 


Leh Ladakh

Day1/20 JULY 
เราเตรียมตัวเดินทางตั้งแต่เมื่อวาน สิ่งจำเป็นนอกเหนือจากเรื่องยุ่งๆสำหรับเข้าอินเดียแล้ว ยังมีสิ่งที่ต้องเตรียมตัวสำหรับไป Leh ก็คือยา Diamox ซึ่งรูจกกันว่าเป็นยาแก้แพ้ความสูง แต่ถ้าถามหมอหมอจะบอกว่าเป็นยาขับปัสสาวะ ซึ่งสองเรื่องนี้มันคงเกี่ยวข้องกันแหละเค้าถึงนิยมใช้กัน การใช้ยาเพื่อนพยาบาลบอกว่าให้กินก่อนเดินทางสัก2 วันและกินต่อเนื่องไปจนกว่าจะลงถามหมอหมอบอกว่ากินวันทางและต่อไปก็กินเมื่อการเดินทางเปลี่ยนระดับไปจากเดิม 1000 เมตร สรุปเราเลยเลือกกินตั้งแต่เมื่อวานซืนตอนเย็นก่อนวัน1วัน กินครึ่งเมตร=125 มิลลิกรัมและทิ้งช่วงห่าง 12ชั่วโมงก็กินไปเรื่อยๆ  

 การเดินทางอันยาวนาน 
           ทริปนี้พวกเราเลือกสายการบิน Air India ทั้งนอกประเทศและในประเทศ ทั้งขาไปและขากลับ เมื่อวานเครื่องออกจากสุวรรณภูมิตรงเวลา 17.55และจะบินมาลงเดลลี ใช้เวลา4ชั่วโมง50นาที แต่อินเดียเวลาช้ากว่าเรา2 ชั่วโมง ก็เท่ากับถึงเดลลี ประมาณ เวลา 20.45 ตามเวลาท้องถิ่นอินเดีย ซึ่งเวลาที่จะต่อเครื่องไป Leh ตามในตั๋วคือ 6.40ของวันนี้ก็เลยสบายเลย

ไม่ว่าขั้นตอนการเข้าประเทศ ต่อด้วยเช็คอินในประเทศจะยุ่งยากแค่ไหนก็ไม่หวั่น ใช้เวลาไปประมาณ2 ชั่วโมง 5 ทุ่มไปรอที่เกจซึ่งยังไม่เปิด ก็เลยได้นอนพักกันยาวๆ หมอต้อกับหมอรัชนีไปนั่งเล่นในเลาน์เราที่เหลือนอนหน้าเกจ ผู้หญิงฟุบตามม้านั่ง ผู้ชายนอนบนพรมปูพื้น หลับๆตื่นก็ข้ามคืนมาถึงเช้าได้เวลาออกเดินทางจนได้ 6.40 ขึ้นเครื่อง

เดินทาชั่วโมงกว่าก็ถึง Leh วิวข่างล่างสวยมากทั้งปีกซ้ายและปีกขวา






เครื่องแลนดิ้งเรียบร้อย อาคารผู้โดยสารจะเป็นหลังเก่าอยู่หลังใหม่กำลังก่อสร้างใหญ่โต



ออกจาอาคารสนามบิน ไกด์ลักปาและทีมงานมารอรับอยู่แล้ว แจกของที่ระลึกนิดนึงและถ่ายรูปร่วมกัน





ทริปนี้เรามีสมาชิก9 คนใช้รถ3คัน นั่งกันสบายๆ ออกจากสนามบินมาเจอกำแพงยาวทาสีน้ำเงินตรวกลางแต่ละบล็อกจะเพนท์รูปนกหลายชนิดและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมของถิ่นนี้เอาไว้เป็นศิลปที่ดูใสซื่อน่ารักดี

สองข้างทางถนนจะมีร้านรวงและโรงแรมที่เพิ่งสร้างเสร์จมาไม่นานการเป็นออกแบบสถาปัตยกรรมที่คล้ายคลึงทั้งเมืองที่เป็นอาคารคอนกรีตแบะตกแต่งหน้ามุกด้วนไม้ฉลุและย้อมสีเนื้อไม้ธรรมชาติ มีการก่อสร้างมากมายในเมืองนี้ทำให้ถนนถึงแม้จไม่สกปรกด้วยขยะแต่ก็มีฝุ่นจากการก่อสร้างปกคลุมไปทั่ว


รถวิ่งซอกแซกประมาณ 10 นาทีก็ถึงที่พัก หลังเช็คอินลักปาก็แจ้งให้เรารีบทานอาหารเช้าซึ่งก็สายมากแล้ว และให้พวกเรานอนพักผ่อนเพื่อ ปรับสภาพร่างกาย



นัดทานข้าวเที่ยงตอนบ่าย2 ลักปาสั้งให้โรงแรมทำเมนูอาหารไทยให้พวกเราทาน เป็นแกงเขียวหวานแต่รสชาติจะออกไปทางต้มข่าไก่มากกว่า มีแกงไก่ และยำอะไรสักอย่างก็พอทานได้






หลังจากนั้นบ่าย3โมงก็ไปชมชานติเจดีย์ ซึางสถูปเจดีย์ที่มีชื่อเสียงของลาดักก็อยู่ไม่ไกลจากที่พัก รถวิ่ง 10 นาทีก็ถึง

The Shanti Stupa
in Leh is one of the city's outstanding monuments. It is a white-domed monument created in 1991 to celebrate 2500 years of Buddhism and to encourage global peace. It is one of the city's biggest attractions, and many people like visiting it. It is a two-level structure that appears interesting with all the features. Because the Shanti Stupa is positioned on a high peak, the view from the top is just breathtaking. People visit for two reasons: one, it is a holy place; and second, the views from the summit are spectacular. Shanti Stupa is located roughly 3600 meters above sea level and is a popular destination for adrenaline seekers. It is delightful to visit this great sight, but there are a few things to keep in mind.





ตรงทางขึ้นก่อนจะถึงองค์เจดีย์จะมีศาลาให้เข้าไปนมัสการพระประธานได้


ตรงฐานองค์พระเจดีย์จำทำเป็นลานกว้างให้สำหรับงานพิธีทางพุทธและชมทัศนียภาพของเมืองจากมุมสูงได้ได้


เจดีย์ Shanti ในเมืองเลห์เป็นหนึ่งในอนุสรณ์สถานที่โดดเด่นของเมือง เป็นอนุสาวรีย์โดมสีขาวที่สร้างขึ้นในปี 1991 เพื่อเฉลิมฉลองพระพุทธศาสนา 2,500 ปี และเพื่อส่งเสริมสันติภาพทั่วโลก ที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของเมือง และหลายๆ คนก็ชอบไปเยี่ยมชม เป็นโครงสร้าง 2 ชั้นที่ดูน่าสนใจพร้อมฟีเจอร์ครบครัน เนื่องจากเจดีย์ศานติตั้งอยู่บนยอดเขาสูง วิวจากด้านบนจึงน่าทึ่งมาก ผู้คนมาเยี่ยมชมด้วยเหตุผลสองประการ ประการแรกเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และอย่างที่สองคือวิวจากยอดเขานั้นงดงามมาก เจดีย์ชานติตั้งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 3,600 เมตร  การได้เยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวอันยิ่งใหญ่แห่งนี้เป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่มีบางสิ่งที่ต้องคำนึงถึง


The Shanti Stupa in Leh is one of the city's outstanding monuments. It is a white-domed monument created in 1991 to celebrate 2500 years of Buddhism and to encourage global peace. It is one of the city's biggest attractions, and many people like visiting it. It is a two-level structure that appears interesting with all the features. Because the Shanti Stupa is positioned on a high peak, the view from the top is just breathtaking. People visit for two reasons: one, it is a holy place; and second, the views from the summit are spectacular. Shanti Stupa is located roughly 3600 meters above sea level and is a popular destination for adrenaline seekers. It is delightful to visit this great sight, but there are a few things to keep in mind.


เจดีย์ชานติตั้งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 3,600 เมตร  การได้เยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวอันยิ่งใหญ่ และการได้มาเดินจงกรมรอบฐานเจดี์ที่สวยงามท่ามกลางทิวทัศน์รอบๆที่ตื่นตาแห่งนี้เป็นเรื่องที่น่ายินดี 



ฐานเจดีย์ชั้นแรกตกแต่งด้วยงานศิลปภาพปูนปั้นนูนต่ำระบายสีสดใสบอกเล่าเรื่องราวของพุทธประวัติที่เราก็ยังไม่เข้าใจแจ่มชัด ขึ้นบันไดที่ฐานชั้นที่2 ก็จะมีภาพที่วิจิตรสวยงามมีรายระเอียดเรื่องราวของพระพุทธเจ้ามากยิ่งขึ้น





ในสถูปสีขาวจะบรรจุพระสารีริกธาตุเอาไว้ เหนือสถูปมีฉัตรปักอยู่บนฐานดอกบัว ยอดฉัตรสูงตระหง่านเชื่อมโยงกับสวรรค์ 

ต่อจากนั้นเราไปชมปราสาทกันต่อ



Namgyal Tsemo Monastery 


Namgyal Tsemo monastery is situated on a mountain top behind the Leh palace, the monastery offers panoramic views of the surrounding countryside, the gently flowing Indus river and the snowcapped peaks of Zanskar range.

The gompa was founded by King Tashi Namgyal in 1430 AD who was a big follower of Buddhism. As a mark of his respect to Buddhism, the king built the monastery above his palace. Situated at the cliff of Namgyal hill, its architecture is impressive. View of Leh from the gompa is breathtaking as the view changes with light. The monastery is a favourite with photographers too.

The gompa has assembly hall and temple with frescoes, paintings and statues of Buddhas. The gold idol of Maitreya Buddha (future Buddha) is three-storey high. The monastery is also noted for one-storey high statues of Avalokitesvara and Manjushri.

Down the hill side there is Shankar gompa which is also associated with Namgyal Tsemo monastery. It is a daily ritual followed by monks from Shankar gompa to worship Buddha and light butter lamps at Namgyal Tsemo. Visitors are allowed into the monastery only during morning and evening. The nine-storey high Namagyal Tsemo palace is also one of the major attractions.



บ้านเรือนมองจากลานจอดรถวัด



ถ่ายรูปแอคชั่นแบบนี้ทัวร์ไทยแน่นอนแต่ไม่ใช่กลุ่มเรา




อาราม Namgyal Tsemo ตั้งอยู่บนยอดเขาด้านหลังพระราชวัง Leh อารามแห่งนี้มีทิวทัศน์มุมกว้างของชนบทโดยรอบ แม่น้ำสินธุที่ไหลเอื่อยๆ และยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะของเทือกเขา Zanskar


กอมปาก่อตั้งโดยกษัตริย์ทาชิ นัมเกลในปี ค.ศ. 1430 ซึ่งเป็นผู้นับถือศาสนาพุทธรายใหญ่ เพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อพระพุทธศาสนา กษัตริย์จึงทรงสร้างอารามเหนือพระราชวังของพระองค์ ตั้งอยู่ที่หน้าผาเนินเขา Namgyal




กอมปามีหอประชุมและวัดที่มีจิตรกรรมฝาผนัง ภาพวาด และพระพุทธรูป พระพุทธรูปทองคำของพระศรีอริยเมตไตรย (พระพุทธองค์ในอนาคต) มีความสูง 3 ชั้น อารามแห่งนี้ยังมีชื่อเสียงจากรูปปั้นพระอวโลกิเตศวรและพระมัญชุศรีสูงชั้นเดียว










สถาปัตยกรรมของที่นี่น่าประทับใจ มุมมองของเลห์จากกอมปานั้นน่าทึ่งมากเมื่อวิวเปลี่ยนไปตามแสง อารามแห่งนี้ก็เป็นที่ชื่นชอบของช่างภาพเช่นกัน







หมอต้อถึงไหนถึงกันไม่ใช่แค่เรื่องนก





ด้านล่างของเนินเขามี Shankar gompa ซึ่งเกี่ยวข้องกับอาราม Namgyal Tsemo เช่นกัน เป็นพิธีกรรมประจำวันที่พระภิกษุจาก Shankar gompa ไปสักการะพระพุทธเจ้าและโคมไฟเนยบางเบาที่ Namgyal Tsemo นักท่องเที่ยวจะได้รับอนุญาตให้เข้าไปในวัดได้เฉพาะช่วงเช้าและเย็นเท่านั้น พระราชวัง Namagyal Tsemo สูง 9 ชั้นยังเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอีกด้วย




ตอนเย็นแวะชมตลาด ถนนคนเดินแต่ก็ไม่แออัด






ทุกร้านราคาเท่ากัน กก.ละ 400 รูป กระจายกันซื้อคนละร้านเราเลือกป้าคนนี้








ทานไอติมผลไม้กัน




ร้านนี้ใครมาแถวนี้ขอแนะนำเลยเด็กทานได้ผู้ใหญ่ชอบมาก



จบวัน ทานข้าวเย็นที่โรงแรมพรุ่งนี้ดูนก DAY2





ไม่มีความคิดเห็น:

กางเตนท์ท้าลมหนาวใต้ต้นพญาเสือโคร่ง

  มกราคม 2568 ทริปนี้ตั้งใจมาลองไปนอนกางเตนท์บนดอยที่เชียงใหม่  จองพื้นที่กางเตนท์ในเวปของอุทยานไว้กันเหนียว เค้าคิดค่าบริการ 30 บาทต่อคน/คื...